ศัลยกรรมติ่งหู คืออะไร มีกระบวนและขั้นตอน ในการทำอย่างไร

การศัลยกรรมติ่งหู ดูดไขมัน เหมาะสำหรับผู้ที่มีความผิดปกติบริเวณติ่งหู เพื่อซ่อมแซมส่วนที่เสียหาย  เนื่องจากติ่งหูเป็นเนื้อส่วนที่ประกอบด้วยผิวหนัง และชั้นไขมันเท่านั้น จึงเกิดการบาดเจ็บได้ง่ายว่าส่วนใบหูอื่น ๆ ไม่ว่าจะเป็นติ่งหูฉีกขาด ยานรั้งไม่สวยงาม หรือว่าถูกยืดขยายผิดรูป ถือว่าสามารถตอบโจทย์ให้กับผู้ที่ต้องการแก้ปัญหาติ่งหูได้เป็นอย่างดี เพื่อให้เกิดความมั่นใจในตนเองมากยิ่งขึ้น เพราะใบหูเป็นจุดที่สามารถมองเห็นได้ง่าย หากมีความผิดปกติเกิดขึ้น ยิ่งทำให้เป็นที่จับตามองของผู้อื่นได้ ยิ่งเป็นสาว ๆ ที่ชอบมัดผม เป็นการเสริมสร้างภาพลักษณ์ที่ดีแก่คนรอบข้างได้เป็นอย่างมาก ก่อนการตัดสินใจ ควรศึกษาหารายละเอียด เพื่อเป็นข้อมูลที่ช่วยประกอบการตัดสินใจได้ดีมากยิ่งขึ้น

การศัลยกรรมติ่งหูคืออะไร

เป็นการศัลยกรรมเพื่อซ่อมแซมส่วนติ่งหูที่เกิดความเสียหายให้กลับเข้าสู่สภาพเดิม หรือใกล้เคียงมากที่สุด ซึ่งสาเหตุที่ทำให้ติ่งหูเกิดความเสียหายนั้น มีมากมายหลายสาเหตุเช่น

  1. ติ่งหูฉีกขาด ซึ่งอาจเกิดจากอุบัติเหตุ การที่มีวัตถุมาเกี่ยวต่างหู จึงทำให้กระชากจนหลุด หรือเจาะหูต่ำจนเกินไป ทำให้ต่างหูรั้งจนขาดในที่สุด
  2. ติ่งหูยาน เพราะต่างหูรั้งเกิดจากการที่ต่างหูที่มีน้ำหนักมากเป็นประจำทุกวัน และทำติดต่อเป็นเวลานาน
  3. ติ่งหูถูกขยายผิดรูป จากการการใส่ตุ้มหูขนาดใหญ่เป็นเวลานาน หรือที่เรียกว่าการระเบิดหู (gauging)

ด้วยปัจจัยเหล่านี้ จึงทำให้เกิดความเสียหายกับติ่งหูขึ้น แต่ก็สามารถทำให้กลับเข้าสู่สภาพเดิมได้โดยการศัลยกรรม ซึ่งนอกจากจะทำให้ติ่งหูกลับเข้าสู่สภาพสวยงามดังเดิมแล้ว ยังทำให้ผู้ติ่งหูที่เคยเสียหาย กลับมาใส่ต่างหูตามปกติได้อีกครั้งด้วย

ศัลยกรรมติ่งหู คืออะไร

กระบวนการศัลยกรรม

การศัลยกรรมหูส่วนใหญ่อาศัยการใช้ยาชาเฉพาะจุด (local anesthesia) และมักใช้เวลาราว 1 ชั่วโมง หรือมากกว่านั้น ขึ้นอยู่กับลักษณะความเสียหายที่เกิดขึ้น

  1. หากติ่งหูฉีกขาดออกจากกันโดยสมบูรณ์ แพทย์จะทำการเย็บติ่งหูส่วนที่ฉีกขาดทั้งสองเข้าด้วยกัน โดยเย็บทั้งเนื้อเยื่อชั้นใน และผิวหนังชั้นนอกเข้าด้วยกัน ทำให้ติ่งหูสามารถต่อติดกันได้อีกครั้ง แต่อย่างไรก็ดี แพทย์จะลงมือศัลยกรรมได้เมื่อแผลฉีกขาดที่เกิดขึ้นหายดีแล้วเท่านั้น
  2. หากติ่งหูมีอาการฉีกขาด แต่ไม่ขาดแยกออกจากกัน แพทย์สามารถทำการศัลยกรรมรักษาได้ทันที โดยในกรณีนี้ หากผู้ป่วยสามารถเจาะหูในวันเดียวกับที่ทำการผ่าตัดศัลยกรรมติ่งหูเลยก็ได้ และทำการรักษาบาดแผลควบคู่กันไป โดยในกรณีนี้แพทย์จะให้คุณใส่ต่างหูนั้นทิ้งไว้อย่างน้อย 2 เดือน และจะให้คำแนะนำต่อไปว่าเมื่อไรจึงเหมาะสมที่จะถอดออกและเปลี่ยนไปใส่ต่างหูชนิดอื่น ๆ หรือที่มีน้ำหนักมากขึ้นได้
  3. ส่วนในกรณีของรูเจาะหูที่ถูกต่างหูรั้งจนหย่อนยาน หรือติ่งหูที่ยืดขยายจากการระเบิดหู แพทย์จะทำการตัดติ่งหูส่วนที่ยืดยานเกินรูปออกมา แล้วทำการเย็บตกแต่งให้ได้รูปสวยอีกครั้ง

การเตรียมตัวก่อนก่อนผ่าตัด

  1. ไม่ต้องงดน้ำและอาหาร
  2. งดยาต้านการอักเสบ (NSAID)เช่น แอสไพริน บุหรี่ อาหารเสริมบางตัวที่มีผลต่อการแข็งตัวของเลือด เช่น กระเทียม น้ำมันปลา อย่างน้อย 1 อาทิตย์ ก่อนการผ่าตัด
  3. สมุนไพรบางชนิดเช่นอีฟนิ่งพริมโรส ยาวิตามินอีปริมาณสูง ๆ อาหารที่มีส่วนผสมของผงชูรส กระเทียม หัวหอม ผลิตภัณฑ์จากถั่วเหลือง อาจทำให้เลือดออกมากผิดปกติหรือมีปัญหาระหว่างผ่าตัด ควรแจ้งให้แพทย์ทราบเพราะอาจต้องหยุดรับประทานสมุนไพรก่อนเข้ารับการผ่าตัดประมาณ 3 – 5 วัน
  4. ผู้ที่มีความดันสูงต้องควบคุมให้ปกติก่อนผ่าตัด 2 อาทิตย์
  5. ควรแจ้งให้แพทย์ทราบถึงโรคประจำตัวของคุณ เช่น เบาหวาน,โรคหัวใจ และยาที่แพ้ เช่น เพนนิซิลิน,ซัลฟา ฯลฯ

ขั้นตอนการผ่าตัด

  1. การผ่าตัดใช้ยาชาเฉพาะที่
  2. ตัดผิวหูแต่ละด้านออกแล้วตกแต่งรูหูใหม่
  3. ในกรณีที่ติ่งหูมีขนาดใหญ่หรือรูปร่างผิดปกติจะมีการตัดแต่งติ่งหูให้มีขนาดเล็กลง
  4. เย็บปิดแผลที่รูหู

การดูแลหลังการผ่าตัด

  1. ใช้น้ำเกลือเช็ดแผล วันละครั้ง
  2. ทายาแก้อักเสบ วันละ 2 ครั้ง ไม่ต้องปิดแผล
  3. นัดตัดไหมประมาณ 10 วัน
  4. การเจาะหูทำหลังจากการผ่าตัดประมาณ 1 เดือน
  5. รับประทานยาตามแพทย์สั่งจนหมด ถ้าเกิดการแพ้ยา เช่น  คัน มีผื่นแดง  คลื่นไส้-อาเจียน  แน่นหน้าอกให้หยุดรับประทานทันที และรีบมาพบแพทย์
  6. งดสุราหรือบุหรี่ 2 อาทิตย์ หลังผ่าตัด

ถือว่าการศัลยกรรมใบหู ช่วยแก้ไขปัญหาให้กับหนุ่ม ๆ สาว ๆ ได้เป็นอย่างดี เพื่อให้มีภพลักษณ์ที่ดีแก่ผู้พบเห็น มีความมั่นใจในการพบปะผู้คนมากขึ้น กว่าการที่มีความผิดปกติของใบหู ถือว่าเป็นสิ่งที่สร้างความพึงพอใจเป็นอย่างมาก