แก้ไขหูกาง Otoplasty ปรับรูปทรงหู ให้สมดุลกับใบหน้า

หูกางเกิดจากความผิดปกติของใบหู สามารถเกิดขึ้นได้ตั้งแต่กำเนิดจากพันธุกรรม หรือภายหลังทั้งเรื่องของอุบัติเหตุ ร่องรอยจากการระเบิดหู สิ่งเหล่านี้ล้วนสร้างความไม่พึงพอใจแก่เจ้าของมาก เมื่อตัดผมทรงไหนก็ไม่เข้ารับใบหน้าทำยังไงก็ไม่สามารถปกปิดได้  โดยทั่วไปใบหูของคนเราจะแนบไปทางด้านหลังชิดกับหนังศีรษะ ทำมุมกันประมาณ 25-35 องศา ขอบนอกใบหูพับไปด้านหลังเล็กน้อย ห่างจากหนังศีรษะประมาณ 1.5-2เซนติเมตร ลักษณะที่ดูหูกางคือใบหูไม่แนบไปทางด้านหลังเท่าที่ควร ซึ่งสาเหตุเกิดจากกระดูกอ่อนใบหูไม่พับไปตามปกติ อาจเกิดขึ้นได้ตั้งแต่เด็ก เพราะส่วนหนึ่งถ่ายทอดทางพันธุกรรม  ศัลยกรรมใบหู เพื่อการ แก้ไขหูกาง สามารถทำได้ตั้งแต่อายุประมาณ 6 ขวบ เนื่องจากเวลานั้นใบหูจะมีขนาดโตเต็มที่เท่ากับผู้ใหญ่

ศัลยกรรมหูกาง (Otoplasty)

เป็นการผ่าตัดแก้ไข แก้ไขหูกาง Otoplasty ลดขนาดหูกาง ให้มีขนาด และลักษณะของใบหูเหมาะสมกับใบหน้าของผู้เข้ารับการผ่าตัด

ผู้ที่เหมาะสมกับการศัลยกรรมหูกาง

  • เหมาะกับคนที่มีลักษณะใบหูที่กาง ไม่เข้ากับใบหน้า เป็นผู้ที่มีใบหูทั้ง 2 ข้างไม่เท่ากัน
  • ช่วงอายุที่สามารถทำการผ่าตัด แก้หูกาง ได้ ตั้งแต่ อายุ 6 ปี ขึ้นไป เนื่องจากใบหูเจริญเติบโตจนเต็มที่แล้ว แต่การผ่าตัดในเด็กแบบนี้ไม่สามารถทำแบบยาชาได้ เพราะเด็กไม่นิ่งพอ จึงต้องมีการดมยา ซึ่งเป็นเรื่องที่พ่อ-แม่ยากจะทำใจ อย่างไรก็ดี การ ผ่าตัดหูกาง โดยการแก้ไขกระดูกอ่อนใบหู เด็กในวัยนี้ ถือว่าทำง่ายและได้ผลดีกว่าตอนโตมาก

วิธีการในการทำศัลยกรรมตกแต่งหู

วิธีการในการทำศัลยกรรมตกแต่งหู

วิธีการทำศัลยกรรมหูกาง จะแตกต่างกันไปในแต่ละราย ศัลยแพทย์ตกแต่งจะฉีดยาชา และให้ยาช่วยลดความกังวลเพื่อไม่ให้คนไข้มีความรู้สึกเจ็บขณะทำหัตถการ ซึ่งจะใช้เวลาผ่าตัดประมาณ 1 – 2 ชั่วโมง โดยจะผ่าตัดผิวหนังส่วนเกินหรือกระดูกอ่อนที่ใบหูส่วนเกิน ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้หูกางออก จากนั้นจึงเย็บใบหูกลับไปตามแนวรอยพับด้านหลังใบหู ทำให้มองไม่เห็นแผลที่ซ่อนไว้ด้านหลัง คนไข้สามารถกลับไปพักฟื้นที่บ้านได้หลังจากได้รับการผ่าตัด

ระยะเวลาในการพักฟื้นนานแค่ไหน
การรักษาใช้เวลาเพียง 1 ชั่วโมงเท่านั้น แต่จะมีรอยเขียวช้ำบ้างมากน้อยแล้วแต่เนื้อเยื่อของแต่ละคน ซึ่งมักจะไม่เกินหนึ่งสัปดาห์

การทำศัลยกรรมใบหูจะถาวรหรือไม่
การแก้ไขหูกางเป็นการแก้ไขที่ถาวร อย่างไรก็ตามการผ่าตัดที่ไม่ถูกวิธีอาจทำให้ได้ผลชั่วคราวและใบหูอาจไม่หุบเท่าที่ควร

ภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้นได้
อาจมีเลือดคั่งใต้แผล ติดเชื้อ ใบหูกางไม่เท่ากัน หรือการดีดตัวกลับของกระดูกอ่อน หูกลับมากางซ้ำ

การเตรียมตัวก่อนศัลยกรรมแก้ไขหูกาง

  • แจ้งข้อมูลหากมีโรคประจำตัว ประวัติการแพ้ยา หรือหากมีอาการเจ็บป่วยก่อนวันผ่าตัด กรุณาแจ้งให้เจ้าหน้าที่ทราบก่อนวันผ่าตัดอย่างน้อย 1 – 3 วัน
  • งดสูบบุหรี่และงดเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์อย่างน้อย 4 สัปดาห์ก่อนผ่าตัด
  • ควรงดยาที่มีผลต่อการแข็งตัวของเลือด อย่างน้อย 7 – 14 วันก่อนผ่าตัด
  • งดใส่คอนแทคเลนส์ แต่งหน้า ทาเล็บ ทาโลชั่น, ดูแลตัวเองหลังศัลยกรรมหูกาง

หูกางไม่เท่ากัน

การดูแลหลังการศัลยกรรมแก้ไขหูกาง

  • เนื่องจากกระดูกอ่อนที่ได้รับการจัดให้ใหม่ต้องอาศัยเวลาในการคงรูป ดังนั้นหลังการรักษาจำเป็นต้องได้รับการคาดใบหูไว้เหมือนการคาดผมเป็นเวลา อย่างน้อย 1 เดือน เพื่อป้องการดีดตัวกลับของใบหู
  • หลังผ่าตัดผู้เข้ารับการรักษาจำเป็นต้องใส่ Face Support รัดบริเวณใบหูตลอดเวลาเป็นเวลาอย่างน้อย 2 สัปดาห์ (หลัง 2 สัปดาห์แล้ว ผู้เข้ารับการรักษาสามารถใส่เฉพาะเวลานอนได้ แต่ควรใส่อย่างน้อยเป็นเวลา 1 เดือน)
  • หลังผ่าตัดควรหลีกเลี่ยงการโดนน้ำบริเวณแผลอย่างน้อย 3 วันขึ้นไป 3 วันแรกหลังผ่าตัด อย่าให้แผลศัลยกรรมโดนน้ำ
  • หลังการผ่าตัดควรงดออกกำลังกาย หรือกิจกรรมที่ต้องมีการกระทบกระเทือนศีรษะอย่างน้อย 2 สัปดาห์ขึ้นไป
  • หลังการผ่าตัดงดเว้นการดื่มเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ รวมไปถึงการสูบบุหรี่ อย่างน้อย 4 สัปดาห์ หรือจนกว่าแผลจะหายดี
  • จำเป็นต้องนอนหงายไปก่อน 4-6 สัปดาห์
  • หลังการผ่าตัดหากมีเลือดออกผิดปกติ ควรเข้ามาพบแพทย์ทันที