ผู้ใดที่มีหูที่ได้มาตรฐานซึ่งส่วนบนของใบหูต้องเสมอคิ้วส่วนปลาย ส่วนของติ่งหูต้องเสมอจมูก หูยาวหรือหูใหญ่คือคนที่มีติ่งหูยาวกว่าปลายจมูก ซึ่งเป็นลักษณะใบหูที่ดี ในทางโหราศาสตร์บ่งบอกว่าเป็นคนที่มีฐานะทางบ้านมั่นคง มีสติปัญญาดี สมองดี ซึ่งใคร ๆ ต่างก็ปรารถนาให้ลักษณะใบหูของตัวเองเป็นอย่างนี้ทั้งนั้น เรามาดูโครงสร้างหลักของใบหูกันดีกว่าว่ามีส่วนประกอบอะไรบ้างที่จะทำให้ใบหูมีรูปร่างที่สวยงาม
โครงสร้างหลักของใบหู ประกอบด้วย
- ขอบนอกของใบหู (Helix) เป็นขอบนอกของใบหู
- ขอบกลางของใบหู (Anti helix) เป็นขอบที่อยู่ถัดจากขอบนอก
- สแคปฟา (Scapha) เป็นส่วนร่องหูที่อยู่กลางระหว่างขอบนอกกับขอบกลางของใบหู
- ถ้วยคองกา (Concha) เป็นส่วนใบหูที่มีรูปร่างเหมือนถ้วยอยู่ระหว่างขอบรูหูและขอบกลางของใบหู
- ติ่งหู (Lobe) เป็นส่วนท่อนล่างสุดของใบหู เป็นส่วนที่ไม่มีกระดูกอ่อน เป็นส่วนที่ใช้สำหรับใส่ต่างหู
- ทรากัส (Tragus) เป็นส่วนติ่งที่มีรูปบริเวณขอบหน้าของรูหู
ลักษณะใบหูที่ดีมีรูปทรงใบหูที่สวยงาม คือ ขอบหู ต้องเป็นวงสวยห่างจากหนังศีรษะ ในส่วนกลางก็ไม่เกิน 2 เซนติเมตร ส่วนบนก็ไม่เกิน 1 เซนติเมตร แล้วที่สำคัญคือ มองจากด้านหน้าเข้าไปเราจะต้องเห็นสันหูก่อน และเห็นขอบหูในลำดับถัดไป
รูปร่างใบหูที่ดูสวยงาม ควรมีลักษณะดังนี้
- แนวโค้งของส่วนประกอบต่าง ๆ เป็นธรรมชาติ ไม่เด่นชัดเกินไป
- เมื่อมองหน้าตรงใบหูไม่ควรเห็นเด่นชัดมากกว่าส่วนอื่นของใบหน้า
- กระดูกอ่อนหูด้านบน (Helix) ควรมองเห็นชัดจากภาวะหน้าตรง การแก้ไขใบหูจนขอบกลางของใบหู (Anti helix) มีความโค้งชัดเจนมากกว่าขอบนอก (helix) จะทำให้ใบหูดูไม่เป็นธรรมชาติ
แต่ก็จะมีบางคนหรือหลายคนที่มีใบหูไม่ได้เข้าเกณฑ์ในลักษณะของใบหูที่ดี นั่นคือ หูกาง ซึ่งสร้างความไม่มั่นใจให้กับผู้ที่มีใบหูที่กางเป็นอย่างมาก เมื่อเป็นเช่นนั้นจึงต้องมองหาหนทางที่จะทำให้ตัวเองมีใบหูที่ปกติเหมือนกับบุคคลทั่ว ๆ ไป และการแก้ไขหูกางนั้นทำได้ไม่ยากและได้ผลดีนั่นคือการทำศัลยกรรมแก้ไขหูกาง
ศัลยกรรมแก้ไขหูกางเป็นการแก้ได้เพียงวิธีเดียวเท่านั้น เนื่องจากกระดูกที่เข้ารูปแล้วยากที่จะทำให้เข้าที่ได้ด้วยวิธีอื่น ๆ จำเป็นต้องทำให้อ่อนลงแล้วจัดให้เข้ารูปใหม่ด้วยเครื่องมือชนิดพิเศษที่มี ขนาดเล็กมาก รอยแผลที่เกิดขึ้นเป็นเพียงเส้นบาง ๆ ที่ถูกซ่อนไว้หลังใบหู คนภายนอกไม่สามารถมองเห็นได้จากด้านหน้า
บทความแนะนำ ฉีดสลายไขมัน VS ตัดไขมันกระพุ้งแก้ม จาก Rattinan.com
วิธีการศัลยกรรมแก้ไขหูกาง
- ศัลยแพทย์จะทำการออกแบบโครงสร้างใบหูให้รับกับใบหน้า และทำการฉีดยาชาบริเวณใบหู ก่อนจะทำแนวเส้นผ่าตัดที่ด้านหลังใบหู
- เมื่อยาชาออกฤทธิ์แล้ว แพทย์จะทำการกรีดเปิดแผลบริเวณหน้าหรือหลังใบหูของผู้เข้ารับการรักษา โดยส่วนใหญ่แล้วแพทย์จะทำการผ่าตัดหลังใบหู เพราะจะเห็นรอยแผลเป็นหลังผ่าตัดได้ยาก
- ผิวหนังส่วนหนึ่งจะถูกตัดออก และแพทย์จะทำการดึงผิวหนังบริเวณแนวเส้นผ่าตัดแนบเข้าหากันและเย็บให้ติดกันเพื่อเป็นการดึงใบหูให้เข้ามาแนบชิดศีรษะมากขึ้น
การเตรียมตัวก่อนการผ่าตัด
- ก่อนเข้ารับการผ่าตัดอย่างน้อย 2 สัปดาห์ ท่านต้องงดแอสไพริน หรือ ยาแก้ปวดกล้ามเนื้อ และงดอาหารเสริมจำพวกวิตามิน เช่น อีฟนิ่งพริมโรส, วิตามินอี, ใบแปะก๊วย เพราะมีผลต่อการแข็งตัวของเลือด
- ก่อนเข้ารับการผ่าตัด หากมีโรคประจำตัวท่านต้องแจ้งให้ศัลยแพทย์ทราบ
- ก่อนเข้ารับการผ่าตัด 2 สัปดาห์ ท่านต้องงดเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์และงดสูบบุหรี่
- ควรใส่เสื้อที่ติดกระดุมด้านหน้าไม่ควรใส่เสื้อยืดที่ไม่มีกระดุม เพราะต้องสวมผ่านศีรษะทำให้เจ็บแผลผ่าตัดที่ใบหูได้
การดูแลหลังผ่าตัดแก้ไขหูกาง
- หลังผ่าตัดให้พันผ้ายืดบริเวณหูไว้ 2 สัปดาห์ ถึง 1 เดือน เพื่อช่วยให้รูปร่างของใบหูเข้าที่
- หลังผ่าตัดท่านไม่ต้องเปิดแผลทำความสะอาด แพทย์จะนัดมาพบเพื่อดูแผลหลังผ่าตัดและนัดตัดไหม ซึ่งจะใช้ระยะเวลา 7 วันหลังผ่าตัด
- หลังทำการผ่าตัด 2 สัปดาห์ ท่านต้องงดอาหารหมักดอง อาหารทะเล อาหารรสเค็ม และอาหาร-รสจัด จนกว่าแผลหาย
- หลังทำการผ่าตัด 2 สัปดาห์ ท่านต้องงดสุราหรือสูบบุหรี่
- ท่านต้องรับประทานยาตามแพทย์สั่งจนหมด หากเกิดการแพ้ยา เช่น คัน มีผื่นแดง คลื่นไส้ อาเจียน แน่นหน้าอก ให้หยุดรับประทานทันที และรีบมาพบแพทย์
บทสรุป
ลักษณะใบหูที่ดี ใคร ๆ ก็อยากจะมี แต่ถ้าเลือกไม่ได้แล้วเกิดมีภาวะใบหูที่ผิดรูปไปจากธรรมชาติที่ควรจะเป็น คงต้องหาวิธีที่จะทำให้ใบหูของตัวเองมีรูปทรงที่ดีด้วยการทำศัลยกรรมซึ่งปัจจุบันนี้มีคลินิกศัลยกรรมเปิดขึ้นมากมาย ท่านจะต้องทำการศึกษารายละเอียดให้ดีก่อนที่จะเข้ารับบริการ ทั้งนี้เพื่อความปลอดภัยและเพื่อเป็นการลดความเสี่ยงก่อนเข้ารับบริการ