การเสริมคางเสี่ยงต่อการทะลุ ซึ่งมีเหตุมาจากการที่เลือกซิลิโคนที่มีขนาดไม่เพียงพอดีกับโครงหน้า แม้กระนั้นความเสี่ยงที่คางจะทะลุมีน้อยมาก เพราะเนื้อคางจะมีความหนา ซึ่งหากเทียบกับวิธีการทำจมูก โอกาสที่จมูกจะทะลุจะมีมากยิ่งกว่าคาง แต่ว่าท่านก็จำเป็นจะรู้อาการเฝ้าระวังความเสี่ยงนี้ไว้ เพราะเหตุว่าการที่ซิลิโคนจะทะลุนั้นจะมิได้เกิดขึ้นแบบในทันทีทันใด การที่คางจะทะลุนั้นจะมีลักษณะเตือนก่อน ซึ่งถ้าเกิดปรับแต่งได้ทันเวลาก็จะไม่ทำให้เป็นอันตรายใด ๆ กระตุ้นแล้วส่งผลให้มีการเกิดการผิดรูปรวมทั้งถ้าไม่รีบมาแก้ไขจนเกิดการทะลุไปแล้ว โอกาสแก้ไขให้กลับสู่ภาวะเดิม ๆ ทำได้ยากมาก ๆ
ลักษณะของคางทะลุ
อาการตอนแรกก็คือเราจะรู้สึกเจ็บปวด เป็นพัก ๆ คือไม่ได้ปวดตลอดเวลา แล้วก็มีน้ำใส ๆ ไหลออกมาตรงบริเวณที่เป็นแผล ทีนี้ตรงผิวที่เป็นแผล มองดูเข้าไปก็จะมองเห็นซิลิโคนข้างในนั่นแหละคืออาการ เสริมคาง ทะลุ
การเสริมคางในปัจจุบันก็จะมีทั้งเทคนิคเป็นเสริมจากทั้งจากในและก็ด้านนอก ซึ่งหลัง ๆ มาส่วนใหญ่แล้วหลังจากนั้นก็จะนิยมเสริมจากด้านในช่องปากมากกว่า เพราะเหตุว่าไม่มีรอยให้มองเห็นจากภายนอก รวมทั้งที่สำคัญก็จะต้องเลือกซิลิโคนให้มันมีรูปทรงใกล้เคียงกับคางของเราด้วย ไม่สมควรเสริมแบบมากเกินไปมันก็อาจจะเสี่ยงที่คางจะทะลุได้เช่นกัน
ใครที่สมควรจะเสริมคาง
การเสริมคางนั้นสามารถทำได้อีกทั้งเพศหญิงรวมทั้งเพศชาย ซึ่งเมื่อเกิดปัญหาใบหน้าสั้น คางถอย คางตัด คางบุ๋ม การเสริมคางสามารถเข้าจัดการกับปัญหานี้ได้ การเสริมคางจะช่วยปรับใบหน้าแลดูมีมิติมากขึ้น และก็เหมาะสำหรับคนที่ต้องการปรับรูปหน้าให้ได้ v shape นอกจากนั้นเสริมคางยังเป็นการส่งเสริมบุคลิกภาพได้อีกทางหนึ่งด้วย
โดยที่ถ้าผู้ชายต้องการที่จะเสริมคางนั้นส่วนมากแล้วนิยมทำเสริมคางให้ป้านขึ้น เหลี่ยมขึ้น เพื่อมองแมน ไม่นิยมทำแหลมเกินไป เนื่องจากอาจจะก่อให้บริเวณใบหน้าดูหวาน ซึ่งแตกต่างจากการเสริมคางหญิงที่นิยมทำให้บริเวณใบหน้ามองเรียว ยาวขึ้น หน้ามองหวานละมุ
เสริมคางมีกี่แบบ
เสริมคางมี 2 วิธีสำคัญ ๆ ดังต่อไปนี้
1.การฉีด
การฉีดคางนั้นจะฉีดด้วยฟิลเลอร์ แล้วก็ไขมัน ซึ่งเมื่อฉีดเสร็จแล้วจะไม่อยู่ถาวร ทั้งยังไขมันแล้วก็ฟิลเลอร์สามารถสลายไปเองในช่วง 2 – 3 ปี แล้วแต่บุคคล หรือในบางรายบางทีก็อาจจะต้องฉีดเติมเต็มซ้ำทุก ๆ ปี
2.การผ่าตัด
การผ่าตัดเสริมคางด้วยซิลิโคน ให้ผลลัพธ์ที่ถาวร สามารถจัดทรงได้ โดยหมอสามารถออกแบบปรับรูปทรงคางร่วมกับคนไข้ตามความต้องการ และความเหมาะสม การเสริมคางด้วยซิลิโคน จะมีความเป็นธรรมชาติมาก
การเสริมคางโดยแบ่งออกเป็น 2 แบบ คือ การเสริมคางแผลนอก การเสริมคางแผลใน
1. การเสริมคางจากภายนอกช่องปาก
เป็นการผ่าตัดศัลยกรรมคางจากข้างนอกช่องปาก โดยเปิดแผลรอบ ๆ ใต้คางยาวราว ๆ 2 เซนติเมตร โดยหมอสามารถปรับรูปคางได้หลายองศา แล้วก็มีวางตำแหน่งซิลิโคนได้อย่างแม่นยำ รวมถึงสามารถตกแต่งผิวหนังส่วนเกินใต้คางได้ เพื่อลดช่องทางคางเบี้ยวหรือเอียงได้ ถือว่าเป็นการเสริมคางที่สามารถดูแลได้ง่าย แผลมีขนาดเล็ก บวมน้อย พักฟื้นไม่นาน แต่ว่าการเสริมคางด้านนอกนั้น จะมีรอยแผลเป็นซึ่งจำเป็นต้องใช้เวลา 1-3 เดือน กว่ารอยแผลเป็นจะหาย ควรจะป้ายยาลดรอยแผลเป็นเพื่อช่วยทำให้แผลหายได้เร็วยิ่งขึ้น
2. การเสริมคางจากภายในช่องปาก
เป็นการเปิดแผลภายในช่องปาก ตรงรอบ ๆ เหงือกด้านในกับริมฝีปากล่าง มีความยาวราว ๆ 2 เซนติเมตร แล้วหลังจากนั้นศัลยแพทย์จะทำผ่าแยกเยื่อห่อขอบด้านล่างของคางออก แล้วจึงวางแท่งซิลิโคนเข้าไปให้พอดิบพอดีกับตำแหน่งที่ต้องการ รวมทั้งปิดเย็บแผลด้วยไหมละลาย เป็นวิธียอดนิยมสูง เหมาะกับผู้ที่มีแผลเป็นนูนง่าย แม้กระนั้นจะต้องดูแลหลังการผ่าตัดมากมายเป็นพิเศษ เพื่อป้องกันแผลติดเชื้อจากน้ำลายหรือเศษอาหาร รวมทั้งระมัดระวังไม่ให้ได้รับการกระทบ เนื่องจากว่าซิลิโคนบางทีอาจเขยื้อนไม่ถูกตำแหน่งได้
ชนิดของซิลิโคนที่ใช้เสริมคาง
ซิลิโคนขาสั้น
เหมาะกับคนที่จำต้องเน้นเฉพาะบริเวณปลายคางให้ยาวยิ่งขึ้น รวมทั้งอยากได้ปรับรูปทรงบนบริเวณใบหน้าให้สมบูรณ์เพิ่มมากขึ้น บริเวณใบหน้าดูยาวขึ้น จะต้องใช้ซิลิโคนที่มีลักษณะนุ่ม ปานกลาง
ซิลิโคนขายาว
เหมาะกับคนที่มีปัญหาคางตัด คางบุ๋ม คางถอย คางเหลี่ยมมาก ๆ ตัวซิลิโคนก็เลยจำต้อง ครอบคลุมถึงรอยต่อแนวกราม รับกับกรอบหน้า ทำให้รูปหน้าได้สัดส่วนมากยิ่งขึ้น